x คืออะไร

x คืออะไร

ตัวอักษร “x” มีหลายความหมาย ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้

1. ตัวอักษร: “x” เป็นตัวอักษรลำดับที่ 24 ในภาษาอังกฤษ

2. คณิตศาสตร์: “x” มักใช้แทนตัวแปร

3. วิทยาศาสตร์: “x” ใช้แทนแกนแนวนอนในระบบพิกัด

4. ภาษาไทย: “x” บางครั้งใช้แทนเสียง “ซ”

5. สัญลักษณ์: “x”

6. อื่นๆ: “x”

ตัวอย่าง:

“x = 10” (คณิตศาสตร์)
“แกน x” (วิทยาศาสตร์)
“เด็กซ์” (ภาษาไทย)
“x-ray” (สัญลักษณ์)
“xoxo” (แสดงความรัก)
หากต้องการทราบความหมายที่เฉพาะเจาะจง

อย่ากิน ‘น้ำสลัด’ เพียงแค่คุณคิดว่าเป็น ‘อาหารเพื่อสุขภาพ’

หลายครั้งที่คำว่า ‘อาหารสุขภาพ’ ทำเราตกม้าตาย เพราะคนยังมีความเข้าใจผิดๆ เรื่องปริมาณอาหารและโภชนาการ อาหารต่อให้ดีแค่ไหนถ้ากินมากเกินไปก็ทำลายสุขภาพได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับอาหารไม่ดีที่แฝงตัวมาในหมู่อาหารดี อาทิ ใส่ของดีมาน้อยนิดแต่โฆษณาซะใหญ่โต หรือไม่บอกถึงส่วนผสมทั้งหมด (ซึ่งบางส่วนมักจะไม่ดี) หนึ่งในตัวอย่างสุดคลาสสิกอย่างน้ำสลัดบรรจุขวดพร้อมกินที่วางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต น้ำสลัดเหล่านี้มีทั้งยี่ห้อที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป เราจึงต้องจำแนกออกมาด้วยการสังเกตส่วนผสมเหล่านี้

สมัยนี้ไม่บอกกันโต้งๆ แล้วว่าใส่น้ำตาลมาเท่าไร แต่จะเปลี่ยนเป็นคำสวยหรู เช่นน้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดฟรักโทสสูง หรือที่ภาษาอังกฤษใช้ว่า High Fructose Corn Syrup (HFCS) ซึ่งนิยมใช้กันในเครื่องดื่มประเภทให้ความหวานสูงหรือพวกลูกกวาดต่างๆ แม้กระทั่งเนยถั่วบางเจ้า (ล่าสุดมีผลการศึกษาพบว่ากิน HFCS นานติดต่อกัน 6 สัปดาห์จะทำให้คุณฉลาดน้อยลง) ความหวานชนิดนี้อันตรายมาก เห็นชื่อมีคำว่าข้าวโพดอย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลพวงมาจากผลผลิตทางธรรมชาติ เพราะมันเป็นน้ำตาลที่เกิดจากการสังเคราะห์และผ่านกรรมวิธีต่างๆ เพื่อให้ได้ความหวานที่สุดและมีต้นทุนต่ำ เหมาะกับการผลิตในปริมาณมาก การกินน้ำสลัดที่มี HFCS จึงไม่ต่างจากการใส่น้ำตาลในอาหารคาว

2.Soybean Oil & Canola Oil

ทั้งสองตัวนี้ก็น่ากลัวเพราะไม่เป็นมิตรต่อสุขภาพ โดยเฉพาะน้ำมันคาโนลาเนื่องจากผ่านกรรมวิธีการผลิตจากโรงงาน ถูกดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) เพื่อขจัดสารพิษให้เหลือน้อยที่สุด น้ำสลัดบางยี่ห้อเขียนว่าใช้น้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมก็จริง แต่เมื่ออ่านส่วนผสมที่เหลือด้านหลังขวดกลับพบว่าน้ำมันหลักที่พวกเขาใช้เป็นน้ำมันถั่วเหลืองหรือน้ำมันคาโนลา ส่วนน้ำมันมะกอกใส่มาในปริมาณที่ต่ำกว่ามาก

3.Light or Low-Fat

สาเหตุที่ให้เลี่ยง เนื่องจากบ่อยครั้งที่เราเห็นน้ำสลัดไขมันต่ำเหล่านี้ทำให้ผู้บริโภคไขว้เขวว่าดีต่อสุขภาพเพราะมีไขมันต่ำ แต่สิ่งที่พวกเขาทำหลังบ้านคือใส่โซเดียมและน้ำตาลมาในปริมาณที่สูงกว่าสูตรปกติ อีกทั้งน้ำสลัดไขมันต่ำยังทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมแคโรทีนอยด์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระในผักเขียวและมะเขือเทศได้เท่าที่ควร หลัง Purdue University พบว่าไขมันดีจำเป็นต่อการดูดซึมสารอาหารจากผักและผลไม้ แต่อย่าเพิ่งรีบคว้าน้ำสลัดสูตรครีมที่อุดมด้วยไขมันมากิน จำไว้ว่าหลักๆ ไขมันดีในชามสลัดได้แก่ น้ำมันมะกอก ถั่ว และอะโวคาโด ส่วนมายองเนสนั้นโค-ตะ-ระคนละเรื่องกันเลย

4.Too Much Ingredients

ไม่ใช่ไปคิดว่าเจ้านี้ใจดีจัง ใส่อะไรไม่รู้มาให้เพียบเลยคงต้องดีแน่ๆ หารู้ไม่ว่าหลักในการเลือกซื้อของกินในซูเปอร์มาร์เก็ตให้เลือกเจ้าที่มีส่วนผสมน้อยที่สุด และต้องเป็นส่วนผสมที่อ่านแล้วเข้าใจได้ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู น้ำผึ้ง เกลือ พริกไทย (จริงๆ แค่นี้ก็ปรุงน้ำสลัดได้แล้ว) ไม่ใช่ใส่สารกันบูด สารคงรูป สารให้ความเปรี้ยว สารให้ความหวาน หัวเชื้อมะนาว สารแต่งรสตามธรรมชาติ ฯลฯ ซึ่งไม่จำเป็นเลยสักนิด

5.Hidden Fats

กฎหมายอเมริการะบุว่าผู้ผลิตต้องแจงปริมาณไขมันทรานส์ไว้ในฉลากโภชนาการ เว้นแต่ว่ามีปริมาณที่ต่ำกว่า 0.5 กรัมถึงอนุญาตให้ใช้คำว่า No Trans Fat ได้ แต่บางครั้งไขมันร้ายก็มีชื่อยากๆ ให้เรียก เช่น Partially Hydrogenated, Hydrogenated Fat หรือ Interesterified Fat เหล่านี้เป็นไขมันดัดแปลงที่กินมากๆ ไม่ดีต่อร่างกาย ดังนั้นผู้บริโภคต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ เพราะอาหารบางชนิดมั่นใจว่าต้องมีไขมันทรานส์แน่ๆ แต่กลับไม่ระบุ ดังนั้นให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะแฝงตัวมาในชื่ออื่น ส่วนกฎหมายบ้านเรายังไม่บังคับให้ระบุปริมาณไขมันทรานส์ เลยต้องวัดดวงกันหน่อย

Amazon คืออะไร

Amazon คืออะไร

Amazon คือบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ก่อตั้งโดย Jeff Bezos ในปี 1994 เริ่มต้นเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์ แต่ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจไปยังสินค้าและบริการที่หลากหลาย

Amazon มีธุรกิจหลักดังนี้:

Amazon.com: แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลก จำหน่ายสินค้าหลากหลายประเภท เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ของเล่น ฯลฯ
Amazon Web Services (AWS): ผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งรายใหญ่ที่สุดในโลก นำเสนอบริการคลาวด์ที่หลากหลาย เช่น การคำนวณ การจัดเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และเครือข่าย
Amazon Prime: บริการสมาชิกที่มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การจัดส่งฟรี สตรีมมิ่งเพลงและวิดีโอ การอ่านหนังสือออนไลน์ และอื่นๆ
Amazon Devices: ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Kindle e-reader, Fire TV Stick, Echo smart speaker
Amazon เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็ว:

มีพนักงานมากกว่า 1.6 ล้านคนทั่วโลก
มีรายได้มากกว่า 470 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022
มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Amazon มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก:

เป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งรายใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
Amazon มีทั้งข้อดีและข้อเสีย:

ข้อดี:

นำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย
มีราคาที่แข่งขันได้
บริการจัดส่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้
นวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ข้อเสีย:

ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการผูกขาด
ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสภาพการทำงานของพนักงาน
ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
โดยสรุป Amazon เป็นบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติที่มีขนาดใหญ่และเติบโตอย่างรวดเร็ว มีธุรกิจที่หลากหลาย มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมาก มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

Twitch คืออะไร

Twitch คืออะไร

Twitch คือแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่งแบบสดที่ผู้ใช้สามารถถ่ายทอดสดการเล่นวิดีโอเกม การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต ดนตรี เนื้อหาสร้างสรรค์ และอื่นๆ อีกมากมาย ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 และปัจจุบันเป็นบริษัท  Amazon.com

Twitch เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับเนื้อหาการเล่นเกม โดยมีผู้ใช้มากกว่า 140 ล้านคนใช้งานแพลตฟอร์มนี้ทุกเดือน สตรีมเมอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบน Twitch สามารถสร้างรายได้จากการสมัครสมาชิก การบริจาค และข้อตกลงการสนับสนุน

Twitch เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการติดตามเกมเมอร์ที่คุณชื่นชอบ ดูการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต และค้นพบเนื้อหาสร้างสรรค์ใหม่ๆ นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ดีในการโต้ตอบกับผู้คนที่มีความสนใจคล้ายคลึงกัน

นี่คือคุณสมบัติบางประการที่ทำให้ Twitch เป็นที่นิยม:

ความหลากหลายของเนื้อหา: มีบางสิ่งสำหรับทุกคนบน Twitch ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกม กีฬา ดนตรี หรืออื่นๆ
ชุมชน: Twitch เป็นบ้านที่มีชุมชนที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและน่าประทับใจ
การโต้ตอบ: Twitch ทำให้การโต้ตอบกับสตรีมเมอร์และผู้ชมรายอื่นง่ายดาย
คุณสมบัติ: Twitch มีคุณสมบัติมากมายที่ทำให้การรับชมและการสตรีมง่ายและสนุกสนาน
หากคุณกำลังมองหาวิธีใหม่ในการเล่นเกม ดูการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต หรือค้นพบเนื้อหาสร้างสรรค์ใหม่ๆ Twitch เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การดู

YouTube Gaming คืออะไร

YouTube Gaming คืออะไร

YouTube Gaming เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่เน้นไปที่เนื้อหาเกม เปิดตัวในปี 2015 ในฐานะคู่แข่งของ Twitch แพลตฟอร์มนำเสนอการผสมผสานระหว่างวิดีโอตามอัธยาศัย การถ่ายทอดสด และเนื้อหาที่เน้นเกมอื่นๆ

YouTube Gaming นำเสนอคุณสมบัติที่หลากหลาย รวมถึง:

การค้นพบ: ผู้ใช้สามารถค้นพบวิดีโอเกมใหม่ตามประเภท เกม และผู้สร้าง
การสมัครสมาชิก: ผู้ใช้สามารถสมัครสมาชิกช่องเพื่อรับเนื้อหาพิเศษและสนับสนุนผู้สร้างที่พวกเขาชื่นชอบ
การแชท: ผู้ใช้สามารถแชทกับผู้สร้างและผู้ชมคนอื่นๆ แบบเรียลไทม์
การบริจาค: ผู้ใช้สามารถบริจาคเงินให้กับผู้สร้างเพื่อสนับสนุนงานของพวกเขา
YouTube Gaming เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับนักเล่นเกมทุกระดับ ผู้ใช้สามารถค้นหาวิดีโอเกี่ยวกับเกมโปรดของพวกเขา รับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันอีสปอร์ต และเชื่อมต่อกับนักเล่นเกมคนอื่นๆ ทั่วโลก

นี่คือข้อดีบางประการของการใช้ YouTube Gaming:

ฟรี: การใช้ YouTube Gaming นั้นฟรี โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก
เนื้อหาที่หลากหลาย: YouTube Gaming นำเสนอเนื้อหาเกมที่หลากหลาย รวมถึงวิดีโอตามอัธยาศัย การถ่ายทอดสด และเนื้อหาที่เน้นเกมอื่นๆ
การค้นพบ: ผู้ใช้สามารถค้นพบวิดีโอเกมใหม่ตามประเภท เกม และผู้สร้าง
ชุมชน: YouTube Gaming มีชุมชนเกมที่กระตือรือร้นซึ่งผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับนักเล่นเกมคนอื่นๆ ทั่วโลก
นี่คือข้อเสียบางประการของการใช้ YouTube Gaming:

โฆษณา: YouTube Gaming มีโฆษณาที่อาจรบกวนผู้ใช้บางราย
เนื้อหาที่มีคุณภาพต่ำ: YouTube Gaming มีเนื้อหาที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้บางรายผิดหวัง
การกลั่นแกล้ง: เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ YouTube Gaming อาจเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้งและการล่วงละเมิด
โดยรวมแล้ว YouTube Gaming เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเล่นเกมทุกระดับ นำเสนอเนื้อหาที่หลากหลาย คุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ และชุมชนที่กระตือรือร้น

Streaming คืออะไร

Streaming คืออะไร

Streaming หมายถึง เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบต่อเนื่อง โดยผู้รับสามารถรับชมหรือใช้งานข้อมูลได้ทันทีโดยไม่ต้องรอโหลดข้อมูลทั้งหมด ตัวอย่างการใช้งาน Streaming ที่พบบ่อย เช่น

การรับชมวิดีโอแบบสดหรือย้อนหลัง: เช่น YouTube, Netflix, Disney+
การฟังเพลงออนไลน์: เช่น Spotify, Apple Music, JOOX
การเล่นเกมแบบออนไลน์: เช่น Twitch, YouTube Gaming
การถ่ายทอดสด: เช่น Facebook Live, Instagram Live

ข้อดีของ Streaming:

สะดวก: ผู้ใช้สามารถรับชมหรือใช้งานข้อมูลได้ทันทีโดยไม่ต้องรอโหลด
ประหยัด: ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องซื้อหรือเก็บข้อมูลไว้บนอุปกรณ์
เข้าถึงได้ง่าย: ผู้ใช้สามารถรับชมหรือใช้งานข้อมูลได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต

ข้อเสียของ Streaming:

จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ต: ผู้ใช้ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อรับชมหรือใช้งานข้อมูล
อาจมีปัญหาเรื่องความหน่วง: ผู้ใช้บางรายอาจประสบปัญหากับความหน่วง (latency) ของข้อมูล
อาจมีค่าใช้จ่าย: ผู้ใช้บางรายอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิกเพื่อรับชมหรือใช้งานข้อมูล

เทคโนโลยี Streaming:

เทคโนโลยี Streaming มีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ตัวอย่างเทคโนโลยี Streaming ที่พบบ่อย เช่น

Progressive Streaming: ผู้ใช้สามารถรับชมหรือใช้งานข้อมูลได้ทันทีโดยไม่ต้องรอโหลดข้อมูลทั้งหมด แต่คุณภาพของข้อมูลอาจไม่ดีเท่าวิธีอื่น
Adaptive Streaming: เทคโนโลยีนี้จะปรับความละเอียดของข้อมูลให้เหมาะสมกับความเร็วอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้
Live Streaming: เทคโนโลยีนี้ใช้สำหรับการถ่ายทอดสด

อนาคตของ Streaming:

เทคโนโลยี Streaming มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในอนาคต Streaming จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา เช่น

การใช้ Streaming สำหรับการทำงาน: พนักงานสามารถทำงานจากระยะไกลโดยใช้เทคโนโลยี Streaming
การใช้ Streaming สำหรับการศึกษา: นักเรียนสามารถเรียนออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยี Streaming
การใช้ Streaming สำหรับการดูแลสุขภาพ: แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคผู้ป่วยจากระยะไกลโดยใช้เทคโนโลยี Streaming
สรุป:

Streaming คือ เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบต่อเนื่อง เทคโนโลยีนี้มีข้อดีและข้อเสีย ผู้ใช้ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจใช้งาน Streaming

เริ่มเล่นหุ้นต้องทำอย่างไร 

เริ่มเล่นหุ้นต้องทำอย่างไร 

1. ศึกษาความรู้:

ศึกษาพื้นฐานการลงทุนในหุ้น เช่น ประเภทของหุ้น กลไกการซื้อขาย ความเสี่ยง ฯลฯ
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่สนใจลงทุน เช่น งบการเงิน ผลประกอบการ กลยุทธ์ ฯลฯ
ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจ การเมือง และธุรกิจ

2. เตรียมเงินทุน:

ลงทุนด้วยเงินเย็นที่ไม่ใช้เงินฉุกเฉิน
เริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย

3. เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น:

เลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่เชื่อถือได้
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและบริการ

4. วางแผนการลงทุน:

กำหนดเป้าหมาย
กำหนดกลยุทธ์
กระจายความเสี่ยง

5. ฝึกฝน:

ฝึกซื้อขายหุ้นเสมือนจริง
เริ่มต้นซื้อขายจริงด้วยจำนวนน้อย

การลงทุนมีความเสี่ยง
ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการลงทุน
ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
คำแนะนำ

ลงทุนอย่างมีสติ
ควบคุมอารมณ์
เรียนรู้และพัฒนาอยู่เสมอ
ขอให้โชคดีในการลงทุน

เพิ่มเติม

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถเริ่มต้นลงทุนในหุ้นได้ง่ายขึ้น เช่น Streaming by Settrade, InvestNow by Krungsri, Finansia HERO
นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นศึกษาจากหลักสูตรการลงทุนออนไลน์ฟรี เช่น e-Learning ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี สภาพคล่องสูง และมีความเสี่ยงต่ำ